วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2554

อันตราย...ภาษาแชท

อันตราย...ภาษาแชท
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่หลายคนมองว่าไกลตัว หลายคนมองว่าไม่สำคัญ แต่จุดเล็กๆ นี้อาจก่อความเปลี่ยนแปลง ได้อย่างมากมาย หากไม่ได้รับการแก้ไข ในสังคมวัยรุ่น ขณะนี้ถูกแทรกซึมโดยโลกไซเบอร์ ยกตัวอย่างสังคมแชทกลายเป็นสังคมที่เข้มแข็ง มีการรวมตัว...และที่สำคัญ... กำลังมีภาษาเป็นของตัวเอง โดยการรุกล้ำวัฒนธรรมอันดีงามของภาษาไทย


ปฏิเสธไม่ได้ว่าโครงข่ายอินเทอร์เน็ต ให้คุณได้ทุกอย่าง นับตั้งแต่การจองตั๋วเครื่องบิน เช็ครอบหนัง ลงทะเบียนเรียน ค้นหาข้อมูลต่างๆ อ่านข่าว ฟังวิทยุ หรือแม้กระทั่งสั่งอาหาร รวมทั้งการให้คุณมีสังคมใหม่ๆ เพิ่มขึ้นด้วย และแล้วสังคมในแชทก็เกิดขึ้น เข้าไปบ่อยๆ คุยกันหลายครั้ง คุ้นชื่อคุ้นนิคเนม (Nickname) (คือชื่อที่ใช้เวลาเล่นChat) กันบ่อยๆ เข้าก็จะเกิดอาการที่เรียกว่า “ติดChat” เหตุผลที่พวกเขาเหล่านั้นรู้สึกว่าChatได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันจนขาดไปไม่ได้ส่วนใหญ่ คือรู้สึกว่ามีสังคมเพิ่มมาอีกสังคมหนึ่ง มีเพื่อนคุย เวลาเหงาๆ เครียดๆ ไม่สบายใจก็สามารถมาระบายในแชท โดยที่คนที่คุยด้วยก็รู้จักเราแค่ชื่อเล่นที่อาจจะเป็นชื่อที่สมมติขึ้นมา เรียกว่าคุยได้ทุกเรื่องโดยไม่ต้องอาย ยังไงก็ไม่เห็นหน้า ไม่รู้จักตัวจริงกันอยู่แล้ว แต่ข้อเสียของการเล่นChatก็มีมากมาย อย่างที่เห็นเป็นข่าวกันประจำก็คือการที่นัดเจอคนในChatแล้วก็เกิดเหตุทำร้ายร่างกายไปจนกระทั่งการฆาตกรรม


ปัจจุบันภาษาChatได้ถูกนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน ทั้งภาษาพูดและภาษาเขียนแล้ว ถ้าไม่เชื่อ คุณพ่อคุณแม่ลองไปสังเกตเวลาที่ลูก ๆ ของคุณพูดคุยกับเพื่อนๆ ดูสิคะ รับรองว่าจะต้องได้ยินศัพท์ประหลาดๆ ที่เหมือนไม่ใช่ภาษาไทยอย่างแน่นอน จะกล่าวให้ชัดก็คือ ภาษาสะดวกปาก สะดวกพิมพ์ อย่างภาษาChat ได้เข้าไปกลมกลืนกับภาษาไทย ที่ใช้ในชีวิตประจำวันของเด็กวัยรุ่น ไปเรียบร้อยแล้ว และที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งคือการแพร่หลายของภาษาChatในภาษาเขียน ถ้าไม่มีการจัดการเสียก่อนที่จะสายเกินไป อาจลุกลามไปจนเกิดการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมก็เป็นได้ เพราะการที่เรามีภาษาเป็นของตัวเอง ถือเป็นเอกราชและวัฒนธรรมอย่างหนึ่ง


ขอยกตัวอย่างภาษาChatที่ใช้พูดคุยกัน เช่น


“ เดฆ่า.. บัยเดเหยอคระ คิดถุงเว่อๆ เลยน๊า”

(แปล - ดีค่ะ บายดีเหรอคะ คิดถึงเวอร์ๆ เลยนะ)
(แปลอีกที – สวัสดีค่ะ สบายดีเหรอคะ คิดถึงมากเลยนะ)


“ดีฮัฟ มะเจอกานนานโคดๆ เลยนะฮัฟ”

(แปล – ดีครับ ไม่เจอกันนานโคตรๆ เลยนะฮะ)
(แปลอีกที - สวัสดีครับ ไม่เจอกันนานมากเลยนะฮะ)


“บั๊บบัย เด๋วต้องไปแร้นนร๊ะ เทอจะคิดถุงกังม่างอ๊ะเป่าง่ะ”

แปล – บ๊ายบาย เดี๋ยวต้องไปแล้วนะ เธอจะคิดถึงกันบ้างรึเปล่าน่ะ)


“ดีคร่ะ ครัยคร๊า ว๊า ไม่ตอบ นู๋ปัยเดกั่ว”

(แปล - ใครคะ ว๊า ไม่ตอบ หนูไปดีกว่า)


“อ่าว ทักช้าจึ๋งเดว ออกไปซะแระ จัยร้อนเจงๆ วุ๊ย ใจร้อนมั่กๆ ”

(แปล - อ่าว ทักช้าจึ๋งเดียว ออกไปซะแล้ว ใจร้อนจริงๆ วุ๊ย ใจร้อนมากๆ )
(แปลอีกที – อ้าว ทักช้านิดเดียว ออกไปแซะแล้ว ใจร้อนจริงๆ ใจร้อนมากๆ )


“อยู่ตงหนายเย๋อฆะ นู๋ปัยมะเปงอ่ะคร่ะ เพ่แมวแผนที่มาให้นู๋จิฆะ”

(แปล- อยู่ตรงไหนล่ะคะ หนูไปไม่เป็นน่ะค่ะ พี่ช่วยเมลล์แผนที่มาให้หนูสิคะ”


“ก้อมีตุ๊ระอ่ะคร่ะ เด๋วต้องไปก่องนะคระ ว่างๆ แร๊วคุยกังหม่าย”

(แปล – ก็มีธุระน่ะค่ะ เดี๋ยวไปก่อนนะคะ ว่างๆแล้วคุยกันใหม่)


แค่นี้ก็เริ่ม ๆ จะปวดหัวกันแล้วใช่มั๊ยค่ะ ยังมีการบัญญัติศัพท์ใหม่ ๆอย่างเช่น


อีแมว - อีเมล์ (E – Mail)


กิ๊ก – ชู้รัก


จร๊วบ - จูบ หอมแก้ม (จากการเลียนเสียง)


หุ หุ - หัวเราะ (จากการเลียนเสียง)


อิ๊ อิ๊ - หัวเราะ (จากการเลียนเสียง)


คริ คริ - หัวเราะ (จากการเลียนเสียง)


เหอ เหอ - หัวเราะ (จากการเลียนเสียง)


ภาษาเช่นนี้เด็กวัยรุ่นจะชอบใช้กันมากจนในปัจจุบันได้นำมาใช้กันในชีวิตประจะวันเสียแล้ว ส่วนมากเมื่อแรกที่เข้ามาคุยในChatก็ใช้ภาษาปกติ แต่พอนานวันเข้าภาษาChatก็จะซึมเข้าไปเอง จนพูดเป็นในที่สุด อันที่จริงแล้วมันก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาใช่ไหมคะ แต่ที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งคือการแพร่หลายของภาษาChatในภาษาเขียน ถ้าไม่มีการจัดการเสียก่อนที่จะสายเกินไป อาจลุกลามไปจนเกิดการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมก็เป็นได้ เพราะการที่เรามีภาษาเป็นของตัวเอง ถือเป็นเอกราชและวัฒนธรรมอย่างหนึ่ง ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรจะคุยกับลูก ๆให้เข้าใจนะคะว่าการที่เราพูดคุยสนทนาโดยใช้ภาษาChatนั้นไม่ใช่เรื่องผิด แต่ขอให้ใช้เฉพาะในห้องChatเท่านั้นอย่านำมาเป็นภาษาพูดหรือภาษาเขียนของเราเพราะภาษาไทยเราเป็นวัฒนธรรมที่ดีงามอยู่แล้ว เราควรจะช่วยกันอนุรักษ์เอาไว้ให้ลูกหลานของเราสืบต่อไป

วันศุกร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2554

แชทสนุกในเฟสบุ๊คแบบvideo calling

แชทแบบเห็นหน้าผ่าน Facebook Video Calling+Skype
เพื่อนเคยรู้ไหมว่าในเฟสบุ๊คนอกจากแชทแบบธรรมดาแล้วยังแชทแบบเห็นหน้าสดๆได้ด้วย! และแล้วเจ้าแห่งโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คก็เริ่มปฏิบัติการครั้งสำคัญ ด้วยการเปิดตัวการให้บริการแชทแบบเห็นหน้าสดๆ หรือ Video Calling กันแล้ว โดยได้รับการสนับสนุนจาก Skype ผู้ให้บริการ Video Calling ที่คนทั่วโลกต่างรู้จักกันดี สำหรับการใช้งาน ก็ง่ายแสนง่าย เพียงเราคลิกที่ชื่อเพื่อน จากนั้นจะเห็นรูปวิดีโอ คลิกปุ๊บจะมี Add on เด้งขึ้นมา เมื่อเราติดตั้งเสร็จก็สามารถแชทกันได้ทันที แต่ตอนนี้ ระบบ video Calling ยังไม่มีบริการในอุปกรณ์พกกาครับ ในอนาคตก็คงต้องรอดูกันต่อไป ใครที่อยากลองแชทกันแบบสดๆ สามารถเข้าไปเริ่มใช้บริการได้แล้ววันนี้ ตามลิงค์นี้เลย  http://www.facebook.com/videocalling
ปรับปรุงหน้าต่างแชทใหม่
Facebook ได้มีการปรับปรุงหน้าต่างแชทใหม่ ซึ่งหน้าตานั้นก็จะดูเรียบหรูและดูสะอาดตาขึ้น
และจะอยู่ที่บริเวณ sidebar และเป็นไปตามภาพด้านล่าง
แชทแบบเห็นหน้าผ่าน Facebook Video Calling+Skype
แชทแบบเห็นหน้าผ่าน Facebook Video Calling+Skype
คำถาม
1.เพื่อนๆเคยลองแชทแบบใช้video callingหรือไม่
2.เพื่อนๆคิดว่าการแชทด้วยข้อความกับแบบvideo callingมีข้อดีข้อเสียอย่างไร

วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2554

เคล็ดลับในการแชทอย่างปลอดภัย

1.อย่าแชทเกี่ยวกับสิ่งที่ทำให้คนแปลกหน้าสามารถเข้าถึงตัวคุณได้ ไม่ว่าจะเป็น นามสกุล ชื่อโรงเรียนหรือที่ทำงาน เมืองที่อาศัย และสถานที่เที่ยวของคุณ
2.ปกป้องข้อมูลของคุณ อย่าป้อนข้อมูลที่ระบุตัวตนได้ไว้ในโปรไฟล์ผู้ใช้ รวมทั้งภาพถ่ายด้วย สิ่งที่อัพโหลดลงในอินเทอร์เน็ตสามารถดาวน์โหลดและแชร์โดยบุคคลอื่นได้ หลีกเลี่ยงการโพสต์ภาพถ่ายที่ทำให้ผู้อื่นระบุตัวตนของคุณได้ โดยเฉพาะภาพถ่ายในเชิงเกี่ยวกับเรื่องเพศ ก่อนจะอัพโหลดภาพถ่าย โปรดคิดทบทวนดูก่อนว่าคุณจะรู้สึกอย่างไรหากพ่อแม่ เพื่อน หรือนายจ้างในอนาคตเห็นภาพเหล่านั้น
3.อย่าออกไปพบบุคคลที่คุณพบเจอในห้องแชท นอกจากคุณจะรู้จักบุคคลนั้นอยู่แล้ว
4.โปรดอย่าบิดเบือนเรื่องอายุของคุณ กับโปรแกรมแชทนั้นๆ เพราะโปรแกรมจะจำกัดอายุผู้ใช้ตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป หากคุณอายุน้อยเกินกว่าจะลงชื่อเข้าใช้ได้ อย่าพยายามหลอกลวงเรื่องอายุ โปรดคุยกับพ่อแม่ของคุณเกี่ยวกับไซต์อื่นที่อาจเหมาะสมกับคุณ


คำถาม
‎1.เพื่อนๆ มีเคล็ดลับอีกไหม ในการแชทให้ปลอกภัย
 ‎2.เพื่อนๆคิดว่า การแชททางอินเทอร์ดน็ตนี้ มีความปลอดภัยหรือไม่อย่างไร พร้อมอธิบาย

วัยรุ่นวัยแนววัยเสี่ยง แชทรักออนไลน์!

  
    การสนทนาทางอินเตอร์เน็ตหรือ “แชท” นั้นมันเป็นการสนทนาที่มีเสน่ห์อยู่ในตัว เทคนิคการใช้ภาษาสื่ออารมณ์ ความรู้สึก การหว่านล้อม เชื้อเชิญ ซึ่งบางครั้งก็สร้างความรู้สึกแตกต่างจากการสนทนาธรรมดาเห็นหน้ากัน นั่นเพราะการแชทสามารถทำอะไรบางอย่างที่เมื่ออยู่ต่อหน้าอาจจะไม่กล้าแสดงออกได้ ก็ไม่แปลกนักที่หลายๆ คนจะติดอกติดใจอยู่กับการแชท แต่ในปีที่ผ่านมาศูนย์เฝ้าระวังภัยเทคโนโลยี (IT WATCH) มูลนิธิกระจกเงา รายงานสถิติคนหายจากการ “แชท” มีจำนวนทั้งสิ้น 37 ราย พุ่งสูงที่สุดในประวัติการณ์ และทุกรายเป็น “เด็กวัยรุ่น” แทบจะทุกกรณีมักจะมีเรื่องรักๆมาเกี่ยวข้องด้วยเสมอ ซึ่งเป็นจุดที่เป็นกังวลของผู้ใหญ่หลายๆ ฝ่าย
    เรื่องแชทนี้ก็ถือเป็นแฟชั่นเป็นเทรนด์ของสังคม เป็นเรื่องใหม่ที่น่าตื่นเต้นสำหรับคนที่ยังไม่เคยลอง เด็กบางคนอาจจะเริ่มเข้าสู่การแชทเพราะอิงไปตามกระแส อิงไปตามเพื่อน เพราะถ้าแชทไม่เป็นก็อาจจะเกิดความรู้สึกแปลกแยกในกลุ่ม ซึ่งตั้งแต่เริ่มต้นการแชทก็มักจะเป็นการพูดคุยกันในเรื่องดีดี ทุกอย่างดำเนินไปด้วยความรู้สึกดีดี เมื่อมันเป็นการสื่อสารที่ทำให้รู้สึกดีเหมือนมีคนมาทำดีด้วยเด็กวัยรุ่นจึง คิดว่า ไม่น่าจะเกิดเรื่องร้ายแรงอะไรขึ้นกับตัวเองและมองว่าเป็นเรื่องที่ไกลตัว ซึ่งการคิดในแบบนั้นก็เป็นไปตามเรื่องอารมณ์ความรู้สึกตามวัย วัยรุ่นวัยใส จึงไม่ค่อยได้ระมัดระวังในการพูดคุยเรื่องส่วนตัวหรือการนัดพบกับเพื่อนทาง อินเตอร์เน็ต และด้วยเด็กวัยรุ่นจะมีประสบการณ์น้อยและยังไม่เข้าใจสภาพปัญหาสังคมที่แท้ จริงว่ามีคนจ้องที่จะทำการล่อลวงโดยใช้การแชทเป็นเครื่องมือ และเด็กยังไม่เข้าใจในสิ่งที่ผู้ใหญ่พยายามให้คำแนะนำตักเตือน หรือบางรายยิ่งบอกมากเท่าไหร่เด็กก็จะคิดว่านั่นคือการ “บ่น”



คำถาม
1.“แชท” หนึ่งใน “สื่อรักออนไลน์” ได้ส่งผลกระทบต่อเด็กวัยรุ่นเป็นจำนวนมากขนาดนี้ได้อย่างไร
2.ถ้าเราโตขึ้นแต่งงานและมีครอบครัว เราจะให้สอนให้ลูกระมัดระวังในการแชทอย่างไร โดยที่พวกเขาไม่รู้สึกว่าคำสอนของเรานั้นเป็นเรื่องบ่นน่าเบื่อ

วันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2554

say hello!ผ่านอินเตอร์เน็ต


      ในยุคโลกไร้พรมแดนเราสามารถพูดคุยกันผ่านทางอินเตอร์เน็ตได้ นับเป็นการติดต่อสื่อสารที่รวดเร็วและประหยัดค่าใช้จ่าย ปัจจุบันนี้ได้มีการพัฒนาการพูดคุยผ่านอินเตอร์เน็ตที่นอกเหนือจากการพูดคุยด้วยการพิมพ์ คือผู้ใช้สามารถพูดคุยแบบได้ยินเสียงและเห็นหน้ากันได้อีกด้วย!
     โปรแกรมที่ใช้ในการพูดคุยสนทนาคือไออาร์ซี ซึ่งเป็นกลุ่มโปรแกรมที่พัฒนามาจากพื้นฐานของโปรแกรมTalkบนระบบปฎิบัติการยูนิกส์ มีโปรแกรมที่น่าสนใจ  เช่น โปรแกรมCamfrog Video Chat, โปรแกรมSkype,โปรแกรมMSN Messenger, โปรแกรมYahoo Messenger เป็นต้น บางคนคงจะรู้จักคุ้นเคยกันมาบ้างแล้ว การพูดคุยผ่านทางอินเตอร์เน็ตนั้นทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนข่าวสารบนเครือข่าย ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นประโยชน์เมื่อผู้ใช้ใช้ในทางสร้างสรรค์ แต่ขณะเดียวกันก็อาจเกิดโทษได้ หากใช้อย่างไม่ระมัดะวัง

คำถาม
1.เพื่อนๆคงคุ้นเคยกับการพูดคุยผ่านอินเตอร์เน็ตหรือที่เรียกว่า"Chat"กันมาแล้ว เพื่อนๆคิดว่าการพูดคุยผ่านอินเตอร์เน็ตมีข้อดี-ข้อเสียอย่างไรบ้าง  อธิบายมาพอสังเขป
2.ในฐานะที่เป็นนักเรียน การพูดคุยผ่านอินเตอร์เน็ตมีประโยชน์ต่อการศึกษาอย่างไร